มือใหม่เล่นหุ้นสายเทคนิค วิเคราะห์ทางเทคนิคอย่างไรให้ได้กำไร
2969 views | 06/05/2022
Copy link to clipboard
Koii Nopnok
Content Creator

นักลงทุนส่วนใหญ่มักเลือกใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานในการวิเคราะห์หุ้น ซึ่งมันเป็นวิธีที่ดีแต่วิธีนี้อาจไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงราคาตลาดหรืออารมณ์ของตลาดในช่วงเวลานั้น ๆ การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) จึงถือเป็นช้อยส์ที่ดีในการใช้วิเคราะห์หุ้น เพราะสามารถช่วยให้เราเห็นถึงราคาตลาดในตอนนั้นและแนวโน้มของราคา การวิเคราะห์ทางเทคนิคจึงเป็นวิธีที่เหมาะกับคนที่อยากทำกำไรจาก Capital Gain แล้วถ้าเป็นนักลงทุนมือใหม่ที่อยากลงทุนสายเทคนิคควรรู้อะไรบ้าง มาดูเคล็ดลับดี ๆ กันเลย !


ทำความเข้าใจพื้นฐานเบื้องต้นการเล่นหุ้นแนวเทคนิค คลิกที่นี่



อย่ารีบปฏิเสธเพราะคิดว่ามันยาก 

หลาย ๆ คนพอเห็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและอินดิเคเตอร์ต่าง ๆ ก็รู้สึกขนหัวลุกและคิดไปเลยทันทีว่ามันยากมาก แต่ความจริงแล้ว หากเราเรียนรู้วิธีการใช้และเทคนิคต่าง ๆ เราก็จะสามารถวิเคราะห์ทางเทคนิคได้อย่างแน่นอน เพราะมันไม่ได้ยากขนาดนั้นจริง ๆ 



เรียนรู้ ฝึกฝน และพัฒนาให้ดีขึ้น

ขั้นตอนแรกในการเรียนรู้การวิเคราะห์ทางเทคนิคคือการมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับแนวคิดหลัก ซึ่งเราสามารถทำได้ด้วยการเรียนรู้ เช่น อ่านหนังสือ อ่านบทความต่าง ๆ ดูคลิปวิดีโอ หรือจะลงเรียนคอร์สออนไลน์ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดี เมื่อเราได้ทำความเข้าใจพื้นฐานการวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้ว สเต็ปต่อมาก็คือการนำสิ่งที่ได้เรียนไปประยุกต์ใช้จริง 



ใช้เครื่องมือวิเคราะห์อย่างน้อย 2 ตัว

คำแนะนำจากเว็บไซต์ Investopedia กูรูด้านการเงินและการเงินลงทุน บอกไว้ว่า ควรใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและอินดิเคเตอร์อย่างน้อย 2 - 3 ตัวร่วมกัน การใช้งานร่วมกันจะช่วยให้มันทำงานได้ดีขึ้น คือเหมือนช่วยส่งเสริมกันและกัน โดยควรเลือกใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและอินดิเคเตอร์ที่ส่งเสริมซึ่งกันและกันเท่านั้น เช่น ใช้แท่งเทียนร่วมกับเส้นค่าเฉลี่ย 2 เส้นและ RSI เป็นต้น



ใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานร่วมด้วย

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) คือ แนวคิดที่มุ่งวิเคราะห์ปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดอัตราผลตอบแทนความเสี่ยงจากการลงทุน และมูลค่าของหลักทรัพย์ โดยมักจะวิเคราะห์จากข้อมูลงบการเงิน อัตราส่วนกำไร ตัวเลขเงินเฟ้อ เป็นต้น เป็นวิธีที่นักลงทุนระยะยาวหรือนักลงทุนแบบ VI มักใช้ในการคัดเลือกหุ้น ซึ่งนักลงทุนสายเทคนิคก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ โดยใช้วิธีนี้ตรวจสอบประวัติความปลอดภัยของหุ้นนั้น ๆ ว่ามีการดำเนินงานเป็นอย่างไรบ้างในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพื่อดูเบื้องต้นว่าเหมาะจะลงทุนหรือซื้อขายไหม 



วางแผนทุกการเทรดเสมอ 

ก่อนที่จะทำการซื้อขาย เราควรวางแผนไว้เสมอ กำหนดจุดซื้อ จุดขาย จุดทำกำไร ตรวจสอบแนวรับแนวต้าน และควรคำนวณเป้าหมายกำไรของการซื้อขายและคำนวณเรื่องขาดทุน ความเสี่ยงต่าง ๆ ไว้ด้วย เพราะมันมีโอกาสทั้งได้กำไรและขาดทุน การวางแผนการซื้อขายสามารถช่วยได้และต้องทำตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัดด้วย



เลือกใช้อินดิเคเตอร์อย่างชาญฉลาด

มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและอินดิเคเตอร์มากมายที่สามารถใช้ร่วมกันได้ แต่บางครั้งเราก็ไม่สามารถใช้เครื่องมือทางเทคนิคทั้งหมดได้ในการซื้อขายครั้งเดียว เพราะฉะนั้นเราจึงควรสร้างระบบการซื้อขายของเราขึ้นมาเอง โดยเลือกใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและอินดิเคเตอร์ที่เราเข้าใจและเชี่ยวชาญจะดีที่สุด



สำหรับใครที่อยากเรียนรู้และลงลึกเกี่ยวกับการเล่นหุ้นแนวเทคนิค ขอแนะนำหลักสูตรสอนลงทุนหุ้นด้วยกราฟเทคนิค ที่ปูพื้นฐานการอ่านกราฟและการใช้ Indicator ตั้งแต่เบสิก ไม่ต้องมีพื้นฐานก็เรียนได้ เพราะสอนตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงเทคนิคขั้นสูง ครบจบในคอร์สเดียว เรียนจบแล้วจะสามารถอ่านกราฟ, ใช้ Indicator แต่ละประเภท, หาแนวรับ/แนวต้าน จุดซื้อ/จุดขาย, เข้าใจเทคนิคการเข้าซื้อหุ้นขาขึ้น และรู้วิธีบริหารความเสี่ยงด้วย Money Management


สนใจเรียนคอร์สสอนลงทุนหุ้นด้วยกราฟเทคนิคจากมือใหม่สู่มืออาชีพ คลิกที่นี่




ที่มาข้อมูล

  • https://www.investopedia.com/trading/best-ways-learn-technical-analysis/
  • https://www.dummies.com/article/business-careers-money/personal-finance/investing/investment-vehicles/stocks/15-technical-analysis-secrets-for-boosting-your-trading-skills-157624/
  • https://www.investopedia.com/articles/active-trading/102914/technical-analysis-strategies-beginners.asp
  • https://www.elearnmarkets.com/blog/technical-analysis-indicators/